หลังจากเตรียมของถุงมินิยังชีพเสร็จ วันรุ่งขึ้นทางโรงงาน ร่วมพัฒนาน้ำแข็งหลอด จำกัด ก็ให้พนักงานแพ็คสารส้มก้อนในถุงน้ำแข็ง และเตรียมน้ำอีกกว่า 2,000 ชวด แพ็คเป็นถุงละ 6 ขวด เพื่อให้คนละ 1 ถุงเลย บวกกับถุงมินิยังชีพ และเดินทางไปสมทบกับเพื่อนพี่คิง (สามีน้องสาวผมเองครับ) ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้านลัดดาวิลล์ ที่ผมก็ไม่อยากเรียกว่าถุงยังชีพ เท่าที่เห็นอยากเรียกว่า "กระสอบยังชีพ" ดีกว่าครับ เพราะว่ามันใหญ่มาก ข้าวสารให้ 5 กิโลเลย เวลาผู้ประสบภัยมารับผมเห็นภาพ ต้องแบกกันเลย ถือคงไม่ไหว การไปบริจาคครั้งนี้พิเศษตรงที่ มีเป้าหมายชัดเจน
คือก่อนไป ทางเราได้รับการร้องขอบริจาคมาจากทางตำรวจที่พี่เขารู้จักกันว่า หมู่บ้านต่างๆ ไม่ค่อยได้รับถุงยังชีพ จึงอยากให้ช่วยไปบริจาค จึงมีการตกลงบริจาคเป็นจุดๆ แล้วนัดหมายกันริมถนน ผมก็ฟังเขาเล่ามาอีกทีนะครับ แต่ดูจากภาพก็คงเป็นอย่างนั้นครับ ตอนแรกผมว่าจะขอไปด้วย แต่ดูจากภาพแล้ว ดีที่ไม่ได้ขอไปด้วย ดูทุลักทุเลมาก น้ำก็สูงด้วยนะครับ คงเกือบมิดล้อเลย หมายถึงล้อรถ 4W นะครับ
ออกรถไปหมู่บ้นลัดดาวิลล์ ในบางบัวทอง ใกล้ๆ กัน
เห็นไหมครับ กระสอบยังชีพครับ
ผมเห็นของที่แจกแล้วหนักใจแทนผู้ประสบภัย คงนึกไม่ถึง งงๆ ด้วยทำไมมันเยอะ และก็คงจะหนักมากด้วยครับ ก็ไอ้กระสอบยังชีพนั่นก็ปาเข้าไป 10 กิโลกรัม น้ำ 6 ขวดก็เกือบ 6 กิโล สารส้มก้อนอีก 1 กิโลกรัมครับ ไม่นับถุงมินิยังชีพสัก ครึ่งกิโล
จบดีกว่าครับ เห็นแล้วหนักแทนผู้ประสบภัยครับ เห็นว่าช่วงกลางเดือนจะไปบริจาคอีกนะครับ ถ้ามีภาพมา ก็จะนำมาฝากนะครับ
ขอบคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
คนทุพพลภาพมืออาชีพ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล
คนทุพพลภาพมืออาชีพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น